ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ไม่ประมาทพลาดประโยชน์


คืนวันเดือนปีเก่า...เลื่อนเล่าผ่าน
เป็นวันวานไม่นานผันวันปีใหม่
ดังฤดูเปลี่ยนผ่านกาลผ่านไป
ทิ้งรอยวัยเก่าแก่ไม่แน่นอน...
ชีวิต ดี ไม่ ดี อยู่ที่เริ่ม
ว่าควรเสริม เพิ่มพูน..ไม่เดือนร้อน
ใช้ชีวิตพอเพียง...อย่าเกี่ยงงอน
ทุกขั้นตอนไม่ประมาทขาดหลักธรรม.
รักษาวัยให้ดีพร้อมถนอมอรรถ
ปฐมวัยเร่งรัดเรียนให้เพียรพร่ำ
มัชฌิมวัยสร้างฐานเด่นเป็นผู้นำ
วัยพลบค่ำปัจฉิมท้าย ขวนขวายบุญ
จึงชื่อว่าไม่ประมาทพลาดประโยชน์
ย่อมรุ่งโรจน์ทุกปี..ดีเกื้อหนุน
ทำวันนี้ เริ่มวันนี้ สร้างดีทุน
ย่อมค้ำจุนให้ได้ดี..ทุกปีเอย.ฯ

ส.ค.ส ปี ๒๕๖๐


ส่งความสุข ให้พ้นทุกข์ ข้ามปีเก่า
พ้นโศกเศร้า หมองหม่น จนยากเข็ญ
ให้รักตัว สุจริต คิดบำเพ็ญ
ละห่างเว้นอบายมุขเหตุทุกข์ตรม
สุขสดสมหวังตั้งใจ ปีใหม่นี้
ไร้ราคีโรคาอาพาธข่ม
ให้แคล้วคลาดปลอดภัยในโลกกลม
สมอารมณ์ปรารถนาสถาพร..

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สู้เพื่อชนะ

ยินดีกับทีมชาติไทย ช้างศึกที่คว้าแชมป์ “ซูซูกิคัพ” สมัยที่ 5
"เมื่อไม่แพ้ ก็คือผู้ชนะ
เมื่อไม่ละ พยายามย่อมทำได้
เมื่อไม่ยอม ท้อแท้สู้สุดใจ
ย่อมเก็บชัย เพราะหั้วใจไม่ยอมแพ้.."

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

คุยกันภาษาดอกไม้..คลายร้อนฤดูหนาว




พักอริยาบถ คุยกันภาษาดอกไม้..คลายร้อนฤดูหนาว
"อย่าปล่อยใจให้เหี่ยวเฉาแห้งแล้ง
กรำแดดแรงแผดเผาเคล้าตัณหา
ลดอาฆาตพยาบาทด้วยเมตตา
อหิงสา สร้างสันติมิตร ไมตรี"

เพียงศรัทธา

เพียงศรัทธาเชื่อมั่นไม่หวั่นไหว
เพียงหัวใจก้มกราบทราบเหตุผล
เพียงระลึกเข้าถึงซึ้งกมล
ย้ำเตือนตนไม่หลงผิดคิดต่ำทราม..
(พุทธลีลา พุทธศิลป์ที่อ่อนช้อย ศิลปะงานแกะฟันกรามช้าง )

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ปลุกใจสู้

 
ปลุกใจให้ตื่น..ฟื้นคืนหลับไหล
ปลุกแรงเปลวไฟ ให้ใจคุกรุ่น
สลัดคราบเกียจคร้าน การงานอากูล
ตื่นจากเมาหมกมุ่น เนรคุณชีวิน
เปลี่ยนจากรอยเศร้า รอยเหงายิ้มสู้
เปลี่ยนใจหดหู่ จากผู้พังภินท์
เช็ดคราบน้ำตา สร่างซาร่วงริน
ลบรอยมลทิน สนิมทิ่มใจ
อรุณวันใหม่ ฟ้าใสรออยู่
หัวใจยิ้มสู้..ในวันฟ้าใส
พร้อมลุก.. ก้าวเดินเผชิญต่อไป
ยากยิ่งเพียงใด...บอกใจจะไม่ย่อท้อ
ถึงล้มลุกคลุกคลาน....อาจหาญไม่บ่น
จะกี่ท้อ กี่ทน กี่หน ไม่ง้อ
กี่ อุปสรรค ขวาก หนาม ตำตอ
จะไม่ร้องขอ ยอมแพ้ยกธง... 
 ปลุกรังฝันร้าง สร้างทางฝันใหม่
เป้าหมายเส้นชัย ไม่หวั่น มั่นคง
พร้อมทุ่มเทกาย ใจ สู้ทรนง
ถึงจุดสูงส่ง...สุดท้ายปลายชัย

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ปลายฝน ต้นหนาว

อำลาวสันต์...
เหมันต์ก็พลันมาเยือน
ลมหนาวย้ำเตือน
สะเทือนหัวอกหวั่นไหว..
ผ้าห่มผืนน้อย
เตรียมคอยปกป้องหัวใจ
แม้จะหนาวเพียงใด...
จำต้องฝ่าไป..ทุกฤดูหนาว
ปลายฝน ต้นเหมันต์
ดูแสนสั้น แต่วันคืนยาว
เพียงผ้าห่มคู่กายยันเช้า
พอทุเรา..บรรเทาเบาบาง
เมื่อหนาวมา ลาฝน
เวียนวนมา อยู่เคียงข้าง
สงสารก็แต่ใจ..อ้างว้าง
ที่ต้องครวญคราง..อยู่อย่างเหน็บหนาว...

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ขอแบ่งปันไออุ่น

ขอแบ่งปันไออุ่น
ละมุ่นเห็นใจกันบ้าง
ยามหนาวเดี่ยวดายอ้างว้าง
ไม่ทิ้งขวางให้เดี่ยวดาย
แค่ผ้าห่มสักผืน...
ช่วยหยิบยื่นคุมกาย
โอบกอดช่วยให้ผ่อนคลาย
ระบายความหนาวจากใจ..
อย่าได้รังเกียจ...เบียดเบียน
ปล่อยให้หนาวเฆียนเจียนตาย
ให้ผู้อาภัพ...อับอาย
จับขังกายเป็นทาสความหนาว..
ขอแค่ไออุ่นเบาบาง
ผ้าห่มกันน้ำค้างหมอกเช้า
เตาผิง จริงใจ ไฟเผา
แค่ช่วยบรรเทา..ทุเราหนาวพอ..

ยอมหนาว หรือ สู้หนาว


อากาศเหน็บหนาวเย็นร้าวถึงใจ
หวังพึ่งกองไฟแต่ใจก็ยังเหน็บหนาว
ความอุ่นไม่พอ เลี้ยงดูหัวใจที่ยังปวดร้าว
หนาวไม่ยอมบรรเทา สงสารใจเจ้าต้องเฝ้าทนหนาว...
หนาวกาย ก็ยังพอทน
ยังไม่จน ค้นผ้าห่มผืนเก่า
แต่หนาวใจ...ถึงผิงไฟบรรเทา
กลับไม่ทุเรา...บรรเทาหนาวลง
หรือคงต้องปลงชีวิน
ปล่อยให้ใจหนาวดิ้นสิ้นทรนง
หรือทนฝึกให้ใจมั่นคง
สู้ฝ่าดงพงหนาว หยุดร้าวใจ..

มองเมรุ



เมรุงามยามแต่งแสงประดับ
ดูวาววับเด่นสง่ามีราศรี
ที่รองรับผู้ตายวายชีวี
ที่อัคคีเผ่าร่างย่างสังขาร
ดูงดงาม หยามใจให้ชวนมอง
ตะลึงต้องหลงไหลให้ฟุ้งซ่าน
ต่างเรือนเพชร สะเก็ดดาว วาวตระการ
ดังวิมาน เรือนทอง ของคนตาย..
ใครยินดีปรีดา...ว่าน่าอยู่
คงอดสูหดหู่ห้องต้องใจหาย
มีโลงนอนพอซ่อนหลีกเร้นกาย
ยามเมื่อวายตายลงปลงชีวิน..

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559

รำลึกถึงพ่อ..ในวันพ่อที่จากไป


อาทิตย์ตกดิน ...
ยังถวิลถึงพ่อไม่สร่าง
คืนแรมอ้างว้าง
น้ำตาหยดค้างอยู่กลางหัวใจ..
ไม่อาจลบเลือน..
คลาดเคลื่อนเลื่อนลอยจากไป
ยังคงอาลัย...หัวใจ เฝ้าคอยถวิล
จะจดจำความดี
พระคุณพ่อนี้ ยิ่งกว่าแผ่นดิน
รำลึกพระคุณ..ไม่สิ้น
ปฐพินยังไม่เทียบทาน
คำว่า พ่อ ยิ่งใหญ่ ในใจเสมอ
เป็นคำเลิศเล่อ ทุกครั้งที่ลูกเอ่ยขาน
ลูกจะทำดี ตามรอยที่พ่อสืบสาน
ให้เป็นตำนาน...กล่าวขานบูชาพ่อเอย..

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

กี่หนต้องทนหนาว..


มองไกลสุดปลายขอบฟ้า
ทิวลิบตาตะวันรุ่งเฉื่อยฉาย
ผ่านฟ้าลมหมอกหนาวเดี่ยวดาย
โอบกอดกายปานว่าหยอกเย้า..
คลื่นรำพึงคะนึงคลอฝั่ง
ครวญคลั่งสั่งคลื่นลมหนาว
เตือนเหมันต์ฤดูยลยาว
เยือกเย็นเร้ารุกร้นปล้นใจ...
ค่อยคอยคลี่ผ้าห่มผืนบาง
สู้ความอ้างว้างหวั่นไหว
กี่เหน็บหนาวเหมันต์ผ่านไป
ท่องกันไว้..ไม่หนาว..เกินทน
ยังหวัง ฝากฝัง ตะวัน
ที่ขอบฟ้าปลายฝันไม่หมองหม่น
สาดแสงอุ่นอบหนาวก้าวพ้น
สักกี่หนที่ต้องทนหนาว..หนาว..

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559

มิตรภาพ..ช่างงดงาม ในใจที่งามงด


มิตรภาพนั้นงดงาม
ในยามต้องการมิตรแท้
หาใครสักคนเหลียวแล
ที่ช่วยแยแสจริงใจ...
ยามสุขไม่ลืมผู้ทุกข์เข็ญ
ลำบากยากเย็นสักแค่ไหน
ไม่ทอดทิ้งผู้อ่อนแอจากไป
ช่วยพยุงพ้นภัย..ให้ชีวิตใหม่ได้ก้าวเดิน..
มิตรภาพ คือ... มิตรแท้
มิตรช่วยดูแล...ไม่ห่างเหิน
มิตรคอยช่วยยามฉุกเฉิน
มิตรคอยร่วมเดิน..ไม่เดียวดาย
มิตรภาพ...ช่างงดงาม
ในทุกนิยามทุกความหมาย
มิตรภาพ...ไม่มีวันเสื่อมสลาย
ไม่มีวันจางหาย..จากความจริงใจ....